DSLR ที่ถูกส่งมาแทนที่ E-420 พร้อมกับมีการอัพเกรดเพิ่มเติมบางระบบการทำงานเข้ามา โดยที่เซ็นเซอร์บันทึกภาพยังคงเป็น Live Mos ความละเอียด 10 ล้านพิกเซลเช่นเดียวกับรุ่นเดิม แต่หน่วยประมวลผลจะถูกเปลี่ยนเป็น TruePic III+ ซึ่งส่งผลให้มีความเร็วในการประมวลผลภาพมากขึ้น พร้อมกับลด Noise ในภาพให้น้อยลง ระบบการทำงานที่ถูกเพิ่มเติมเช้ามาใน E-450 เช่น Art Filter 3 แบบ เพื่อปรับลักษณะของภาพให้มีลักษณะที่แตกต่างจากปกติ คือ
- Pop Art ซึ่งจะเพิ่มสีสันของภาพเพื่อทำให้ภาพที่ออกมามีสีสันที่อิ่มตัวมากขึ้นเหมือนกับภาพสไลด์ Pop Art
- Soft Focus ทำให้ภาพมีลักษณะที่ซอฟต์แม้ในสภาพแสงที่แข็งโดยที่ไม่ทำให้รายละเอียอดในภาพอย่างเส้นผมคนและกลีบดอกไม้ สูญเสียไป
- Pin Hole จะลดความสว่างของส่วนที่อยู่ด้านนอกของภาพลงเหมือนกับกล้องรูเข็ม
ส่วนระบบ Live View ของกล้องก็ได้รับการปรับปรุงให้ใช้ระบบโฟกัสแบบ Contrast AF ได้ เพื่อความแม่นยำ มากขึ้นในการโฟกัสภาพ พร้อมกับปรับปรุงความสว่างของจอ LCD ให้สามารถมองภาพในสภาพแสงที่สว่างได้ง่าย แต่ยังคงเป็นแบบ HyperCrytal II มีขนาด 2.7 นิ้ว และให้มุมมอง 176 องศา เช่นเดิม
ระบบ Perfect Shot Preview เพื่อให้ผู้ใช้เปรียบเทียบลักษณะของภาพจากการปรับที่แตกต่างกันก่อนที่จะถ่ายภาพจริง ส่วนระบบอื่นๆของ E-450 นั้นยังคงเหมือนกับ E-420 คือ มีระบบบันทึกภาพให้เลือกใช้งานถึง 27 โหมดคือ ระบบบันทึกภาพโปรแกรม ปรับความเร็วชัตเตอร์อัตโนมัติ ปรับรูรับแสงอัตโนมัติ แมนนวล ระบบบันทึกภาพ Creative Mode 5 โหมด และระบบบันทึกภาพแบบ Scene Mode 18 โหมด
ปรับความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO100 - 1600 สามารถถ่ายภาพต่อเนื่อง ได้ด้วยความเร็วสูงสุด 3.5 ภาพต่อวินาทีได้ต่อเนื่องไม่จำกัดจำนวนในแบบ JPEG และ 8 ภาพในแบบ RAW เซ็นเซอร์โฟกัสแบบ Contrast AF 11 กรอบ มีระบบวัดแสงให้เลือกใช้หลายระบบ ทั้งระบบแบ่งพื้นที่ 49 ส่วน, เฉลี่ยหนักกลาง, เฉพาะจุด, เฉพาะจุดในส่วนของไฮไลต์ และเฉพาะจุดในส่วนของชาโดว์ ความเร็วชัตเตอร์ตั้งแต่ 30-1/4000 วินาที และ Bulb ได้สูงสุด 30 นาที สัมพันธ์แฟลชสูงสุดที่ 1/180 วินาที พร้อมมีระบบสัมพันธ์แฟลชที่ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดที่ 1/4000 วินาที มีระบบแยกแฟลชในตัวกล้อง ส่วนการ์ดบันทึกภาพใช้ได้ทั้งแบบ CF และ XD การ์ด
เครดิตจาก PHOTOINFO
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น